EN
2565
2564
2563
2562
2561
2560
2559
2558
2557
2556
2555
2554
2552
2551
2550
2565

ในปี 2565

  • ขยายโรงงานใหม่ สู่การเป็นผู้ให้บริการทางด้านโซลูชั่นส์ทางธุรกิจแบบครบวงจรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • เริ่มผลิตซองบรรจุภัณฑ์อ่อนตัว (Flexible Packaging) โดยเริ่มต้นผลิตซองบรรจุภัณฑ์ด้วยระบบการพิมพ์ดิจิตอล
  • เดือนกันยายน ได้รับการรับรองจาก สมาคมผู้รีไซเคิลพลาสติก (The Association of Postconsumer Plastic Recyclers : APR) ให้ผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปกลุ่ม Green Shrink
  • ดำเนินการติดตั้งเครื่องจักรสู่โรงงานใหม่เป็นไปตามแผน เตรียมความพร้อมในการผลิตฟิล์มหดรัดรูป ตลอดจนการขยายไปสู่บรรจุภัณฑ์อ่อนตัว (Flexible Packaging)
  • เริ่มโครงการระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาโรงงานของบริษัท ขนาดกำลังติดตั้ง 600 กิโลวัตต์ เพื่อช่วยในการประหยัดต้นทุนด้านพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
2564

ในเดือนพฤษภาคม

บริษัทฯ ได้รับรางวัลชนะการประกวดจาก HP Inkspiration Awards 2021 (HP Indigo Digital Print) ในประเทศสิงคโปร์ สาขาฉลากฟิล์มหดรัดรูป (Shrink Sleeves)

ในเดือนมิถุนายน

บริษัทฯ ได้ลงทุนและติดตั้งเครื่องพิมพ์กราเวียร์ 10 สี (เครื่องที่ 3) สำหรับ Line ผลิตที่ 5

บริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐาน GHP (Good Hygiene Practice) และ HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Points)

ในเดือนกันยายน

บริษัทเริ่มก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการผลิตฟิล์มหดรัดรูป ตลอดจนการขยายไปสู่บรรจุภัณฑ์อ่อนตัว (Flexible Packaging)

บริษัทฯ ได้เข้าร่วมสัมมนาหลักสูตรกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของธุรกิจ (Corporate Sustainability Strategy) รุ่น 4 จัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บริษัทฯ จัดงานสัมมนาออนไลน์ให้พันธมิตรทางธุรกิจและคู่ค้า ในหัวข้อ “The Road to Sustainability with Shrinkflex” เป็นการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ของฉลากฟิล์มหดรัดรูปที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

บริษัทฯ ได้รับรางวัล Leading Manufacturer and Distributor of Shrink Sleeve Thailand และ Best High-Definition Printing Service Provider Thailand 2021 Awards จาก World Business Outlook

2563

ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงเป็น บริษัท มหาชน

ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ครั้งที่ 1/2563

เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2563 มีมติอนุมัติ

  • แปรสภาพบริษัทเป็นบริษัทมหาชนจำกัดและเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
  • เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัท จากเดิมหุ้นละ 10.00 บาท เป็นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
  • เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทอีกจำนวน 120,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 240,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งจะทำให้ทุนจดทะเบียนของบริษัทเพิ่มขึ้นจากทุนจดทะเบียนปัจจุบันจำนวน 100,000,000 บาท เป็น 220,000,000 บาท แบ่งออกเป็น 440,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ทั้งนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท จำนวนไม่เกิน 240,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เป็นดังนี้

    1). จำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 120,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อเสนอขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering)

    2). จำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 108,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไปครั้งแรก (Initial Public Offering: IPO)

    3). จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 12,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือ พนักงานของบริษัท ในราคาเดียวกันกับราคาที่เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (Initial Public Offering) ทั้งนี้ หากมีหุ้นสามัญเพิ่มทุนเหลือจากการจัดสรรให้แก่กรรมการของบริษัท ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานของบริษัท ให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนที่เหลือดังกล่าวเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (Initial Public Offering)

วันที่ 1 มิถุนายน 2563 บริษัทได้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน

ในเดือนมิถุนายน บริษัทได้มีการเพิ่มทุนชำระแล้ว 60.00 ล้านบาท

จากทุนชำระแล้วเดิม 100.00 ล้านบาท รวมเป็น 160.00 ล้านบาท เพื่อรองรับรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ

บริษัทได้รับรางวัล Digital Print Excellence Award จาก HP Inc.

บริษัทเริ่มดำเนินธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายฟิล์มยืด (Stretch Film) ให้แก่กลุ่มลูกค้าปัจจุบัน

2562

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 45.00 ล้านบาท

จากทุนจดทะเบียนเดิม 55.00 ล้านบาท รวมเป็น 100.00 ล้านบาทเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ โดยเป็นการเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นเดิม

บริษัทได้ลงทุนซื้อเครื่องพิมพ์กราเวียร์ 10 สี

เพิ่มเติม (เครื่องที่ 2) รวมถึงซื้อเครื่องจักรผสมสี (Ink Dispenser) รุ่น Inkmaker Croma จากประเทศอิตาลี จำนวน 1 เครื่อง

ในเดือนธันวาคม 2562 บริษัทได้ลงนามในสัญญาจ้างเหมาโครงการระบบผลิตไฟฟ้า

จากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาโรงงานของบริษัท ขนาดกำลังติดตั้ง 450 กิโลวัตต์ เพื่อช่วยในการประหยัดต้นทุนด้านพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

2561

บริษัทลงทุนซื้อเครื่องพิมพ์ดิจิตอลเพิ่มเติม

2560

บริษัทได้รับรางวัล Digital Printing Innovation Award จาก HP Inc.

ในเดือนตุลาคม บริษัทได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001: 2015

สำหรับการผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูปสำหรับสินค้าบรรจุภัณฑ์

2559

บริษัทได้ขยายการให้บริการ

โดยรับออกแบบและผลิตแม่พิมพ์ (Printing Cylinder)

2558

บริษัทได้ลงทุนซื้อเครื่อง Electric Shrink Tunnel

เพิ่มเติมเพื่อมาเพิ่มความสามารถในพัฒนาสินค้าใหม่ๆ โดยเป็นเครื่องที่ให้ความร้อนในการอบฟิล์ม ทำให้ฟิล์มหดตัวลงเข้ากับบรรจุภัณฑ์

2557

บริษัทขยายธุรกิจการพิมพ์ โดยเริ่มนำระบบการพิมพ์ดิจิตอล (Digital Printing)

เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

บริษัทมีการซื้อเครื่องพิมพ์กราเวียร์ 10 สีเพิ่มเติม

บริษัทเข้าร่วมโครงการสนับสนุนการให้คำปรึกษาเพื่อลดต้นทุนพลังงานในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดเล็ก จากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน

เดือนตุลาคม บริษัทได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001: 2008

ซึ่งรับรองคุณภาพในด้านระบบบริหารคุณภาพและบริการ ในการผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูปสำหรับสินค้าบรรจุภัณฑ์

2556

บริษัทได้รับใบรับรองอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 2 ปฏิบัติการสีเขียว (Green Activity)

จากกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นครั้งแรก

2555

ในเดือนธันวาคม ได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 15.00 ล้านบาท

จากทุนจดทะเบียนเดิม 40.00 ล้านบาท รวมเป็น 55.00 ล้านบาท เพื่อรองรับรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ

2554

บริษัทได้ลงทุนซื้อเครื่องพิมพ์กราเวียร์ 9 สี

เพิ่มเติมเพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ

เดือนตุลาคม บริษัทได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001: 2008

ซึ่งรับรองคุณภาพในด้านระบบบริหารคุณภาพและบริการ ในการผลิตฟิล์มพลาสติกสำหรับสินค้าบรรจุภัณฑ์

2552

ในเดือนพฤษภาคม 2552 ได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 20.00 ล้านบาท

จากทุนจดทะเบียนเดิม 20.00 ล้านบาท รวมเป็น 40.00 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ

บริษัทได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

2551

บริษัทเริ่มใช้ระบบการพิมพ์กราเวียร์ 9 สี (Nine-Colors Rotogravure Printing)

ในกระบวนการผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูป และซื้อเครื่อง Proof สี เพิ่มเติม

2550

บริษัทจดทะเบียนจัดตั้ง เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2550 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 20.00 ล้านบาท

แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 2,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10.00 บาท เพื่อประกอบธุรกิจผลิตและให้บริการทางด้านฉลากสินค้าประเภทฟิล์มหดรัดรูป

เริ่มมีการลงทุนในเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิตระบบการพิมพ์กราเวียร์

อาทิ เครื่องกรอม้วนฟิล์ม (Doctoring machine) เครื่องผ้าม้วนฟิล์ม (Slitting machine) เครื่องตัดตามขนาด (Cutting machine) เครื่องทากาว (Glue Sealing machine)