บริษัทได้จัดทำนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดีตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียนปี 2560 (The Principles of Good Corporate Governance For Listed Companies, 2017) ของสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจและการบริหารองค์กรในการเสริมสร้างการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ และสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดแก่ผู้ถือหุ้น ผู้ลงทุน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย และเพื่อสร้างคุณค่าให้แก่กิจการอย่างยั่งยืน
โดยบริษัทได้กำหนดนโยบาย ซึ่งครอบคลุมหลักปฏิบัติ 8 ประการ ซึ่งสามารถสรุปโดยสังเขปได้ดังนี้
หลักปฏิบัติ 1 : ตระหนักถึงบทบาทและความรับผิดชอบของคณะกรรมการในฐานะผู้นำองค์กรที่สร้างคุณค่าให้แก่กิจการอย่างยั่งยืน
คณะกรรมการบริษัทเข้าใจบทบาทและตระหนักถึงความรับผิดชอบในฐานะผู้นำที่ต้องกำกับดูแลให้องค์กรมีการบริหารจัดการที่ดี โดยบริษัทได้จัดให้มีกฎบัตรของคณะกรรมการซึ่งกำหนดอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบไว้อย่างชัดเจน ทั้งในการปฏิบัติหน้าที่และกำกับดูแลกิจการของบริษัทและบริษัทย่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ ข้อบังคับ มติที่ประชุมคณะกรรมการและมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง ความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นทุกราย รวมถึงมีบทบาทหน้าที่ดังต่อไปนี้
- บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการในการบริหารจัดการที่ดีเพื่อให้บริษัทมีความมั่นคงในระยะยาว
- บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัทในการกำกับดูแล และสร้างคุณค่าให้แก่กิจการอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
- บทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัทในการกำกับดูแลบุคลากรของบริษัท
- ขอบเขตหน้าที่ และความรับผิดชอบ และการการมอบหมายงานของคณะกรรมการบริษัท
หลักปฏิบัติ 2 : กำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายทางธุรกิจของกิจการที่เป็นไปเพื่อความยั่งยืน
- การกำหนดและจัดการดูแลเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายหลักของกิจการ (objectives) เป็นไปเพื่อความยั่งยืน
- การกำกับดูแลให้มั่นใจว่าวัตถุประสงค์และเป้าหมาย ตลอดจนกลยุทธ์ของกิจการให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายหลักของกิจการ โดยมีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย
หลักปฏิบัติ 3 : เสริมสร้างคณะกรรมการที่มีประสิทธิผล
- การกำหนดและทบทวนโครงสร้างคณะกรรมการให้มีความเหมาะสม เพื่อนำพาองค์กรสู่วัตถุประสงค์และเป้าหมายหลักที่กำหนดไว้
- การเลือกประธานกรรมการ และการแบ่งแยกหน้าที่ความรับผิดชอบเพื่อให้มีการตัดสินใจอย่างเป็นอิสระ
- การกำกับดูแลให้การสรรหาและคัดเลือกกรรมการมีความโปร่งใสและชัดเจน เพื่อให้ได้คณะกรรมการที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมตามที่กำหนดได้
- ในการพิจารณาค่าตอบแทนของคณะกรรมการบริษัท
- การควบคุม ดูแล รับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่และการจัดสรรเวลาของกรรมการที่เหมาะสมเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์แก่บริษัท และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน
- ในการกำกับดูแลให้มีกรอบและกลไกในการกำกับการดำเนินงานของบริษัทย่อยและกิจการอื่นที่บริษัทไปลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ
- การจัดให้มีการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัททั้งแบบรายคณะและแบบรายบุคคล เพื่อนำผลการประเมินไปพัฒนาการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
- การส่งเสริมให้กรรมการบริษัทมีความรู้ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของธุรกิจและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และสนับสนุนให้กรรมการบริษัทได้รับการเสริมสร้างทักษะ และความรู้สำหรับการปฏิบัติหน้าที่กรรมการบริษัท
- การควบคุมดูแลการดำเนินงานของคณะกรรมการบริษัทให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และการแต่งตั้งเลขานุการบริษัท เพื่อเป็นการสนับสนุนการเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญของคณะกรรมการบริษัท
หลักปฏิบัติ 4 : สรรหาและพัฒนาผู้บริหารระดับสูงและการบริหารบุคลากร
- การสรรหาพัฒนาประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้บริหารระดับสูงที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมาย
- การกำหนดกรอบและนโยบายสำหรับค่าตอบแทนและการประเมินผลที่เหมาะสมกับบุคลากรในองค์กร
- การสร้างความเข้าใจในโครงสร้าง และความสัมพันธ์ของผู้ถือหุ้น ที่อาจจะมีผลกระทบต่อการบริหารและการดำเนินงานของกิจการ
- การติดตามและดูแลการบริหารและพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ และแรงจูงใจที่เหมาะสม เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาองค์กร
หลักปฏิบัติ 5 : ส่งเสริมนวัตกรรมและการประกอบธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ
- การให้ความสำคัญและการสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมที่ก่อให้เกิดมูลค่าแก่ธุรกิจควบคู่ไปกับการสร้างคุณประโยชน์ต่อลูกค้าหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง และมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
- การติดตามดูแลให้ฝ่ายจัดการประกอบธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
โดยสะท้อนอยู่ในแผนดำเนินการ (Operational plan) เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกฝ่ายดำเนินการสอดคล้องกับวัตถุประสงค์เป้าหมายหลัก และแผนกกลยุทธ์ของกิจการ - การจัดสรรและการจัดการทรัพยากรให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
หลักปฏิบัติ 6 : ดูแลให้มีระบบการบริหารความเสี่ยงและการควบคุมภายในที่เหมาะสม
- การจัดให้มีระบบการบริหารความเสี่ยงและการควบคุมภายในที่จะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิผล และมีการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง
- การจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างอิสระ
- การติดตามดูแลและการจัดการความขัดแย้งของผลประโยชน์ที่อาจจะเกิดขึ้นในบริษัท รวมถึงการป้องกันการใช้ประโยชน์อันมิควรในทรัพย์สินข้อมูลและโอกาสของบริษัท และการทำธุรกรรม
กับผู้ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวกับบริษัทในลักษณะที่ไม่สมควร - การกำกับดูแลให้มีการจัดทำนโยบายและแนวปฏิบัติด้านการต่อต้านคอร์รัปชั่นและการสื่อสาร
ในทุกระดับของบริษัท และต่อบุคคลภายนอกเพื่อให้เกิดการนำไปปฏิบัติได้จริง - การกำกับดูแลให้บริษัทมีกลไกในการรับเรื่องร้องเรียนและการดำเนินการกรณีมีการชี้เบาะแสการทุจริตคอรัปชั่น
หลักปฏิบัติ 7 : รักษาความน่าเชื่อถือทางการเงินและการเปิดเผยข้อมูล
- การดูแลและรับผิดชอบให้การจัดทำรายงานทางการเงินและการเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ ถูกต้อง เพียงพอ ทันเวลา และเป็นไปตามเหตุการณ์ มาตรฐานและแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง
- การติดตามดูแลความเพียงพอของสภาพคล่องทางการเงิน และความสามารถในการชำระหนี้
- การจัดทำแผน และกลไกในการแก้ไขปัญหาทางการเงิน หากกิจการประสบปัญหาทางการเงิน
- การจัดทำรายงานความยั่งยืน ตามความเหมาะสมของบริษัท
- การจัดให้มีหน่วยงานนักลงทุนสัมพันธ์เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการติดต่อสื่อสารระหว่างบริษัท
กับผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสีย - การส่งเสริมให้นำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการเผยแพร่ข้อมูลของบริษัท
หลักปฏิบัติ 8 : สนับสนุนการมีส่วนร่วมและการสื่อสารกับผู้ถือหุ้น
- การเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องสำคัญของบริษัท
- การกำกับดูแลให้การดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการประชุมผู้ถือหุ้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โปร่งใส และเอื้อต่อการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้น
- การกำกับดูแลให้การเปิดเผยมติที่ประชุม และรายงานการประชุมเป็นไปอย่างถูกต้องและครบถ้วน